การเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยเป็นทักษะที่สำคัญในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือประสบเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุ รถชน หรือการเกิดเหตุภัยธรรมชาติ การเลือกวิธีการเคลื่อนย้ายที่เหมาะสม สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บเพิ่มเติม และทำให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและปลอดภัย
ประเมินอาการก่อนการเคลื่อนย้าย
ก่อนที่จะทำการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย สิ่งสำคัญ คือ การประเมินอาการของผู้ประสบภัยอย่างละเอียด เพื่อเลือกวิธีการเคลื่อนย้ายที่เหมาะสมและปลอดภัย การประเมินควรครอบคลุมถึงลักษณะบาดเจ็บ ความสามารถในการเคลื่อนไหว การหายใจ และการรับรู้ของผู้ประสบภัย
1. ประเมินความรุนแรงของการบาดเจ็บ
คสามรุนแรง หรือลักษณะอาการบาดเจ็บที่ผู้ประสบภัยได้รับ เช่น กระดูกหัก แผลเปิด หรือการบาดเจ็บที่ศีรษะ มีผลต่อการเลือกวิธีการเคลื่อนย้ายที่เหมาะสม การเคลื่อนย้ายที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้การบาดเจ็บแย่ลง
2. ตรวจสอบการหายใจและการไหลเวียนของเลือด
ผู้ประสบภัยที่มีปัญหาในการหายใจหรือระบบการไหลเวียนของเลือดที่ผิดปกติ จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน การเคลื่อนย้ายควรทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อระบบหายใจและระบบหมุนเวียนของเลือด
3. การประเมินการรับรู้ของผู้ประสบภัย
หากผู้ประสบภัยมีอาการสับสนหรือหมดสติ ควรระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายเพราะอาจมีบาดเจ็บที่ไม่เห็นได้ชัดเจน เช่น การบาดเจ็บภายในหรือการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง
วิธีการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย
มีวิธีการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยหลากหลายวิธีที่สามารถนำมาใช้ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะอาการและสถานการณ์ บางวิธีเหมาะสำหรับผู้ประสบภัยที่ยังคงมีความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง ขณะที่บางวิธีเหมาะสำหรับผู้ประสบภัยที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงหรือหมดสติ เราได้นำตัวอย่างวิธีการเคลื่อนย้าย มีดังนี้
1. การประคองหรือการพยุงเดิน
วิธีการประคองหรือการพยุง เป็นวิธีที่ใช้สำหรับผู้ประสบภัยที่มีสติ ยังคงรู้สึกตัว แต่มีอาการบางเจ็บเล็กน้อยที่ขาทำให้เดินไม่สะดวก
วิธีการ:
- เริ่มจากผู้ช่วยยืนเคียงข้างผู้ประสบภัย หันหน้าไปทางเดียวกัน
- โดยที่แขนข้างหนึ่งของผู้ป่วยจะต้องพาดไปที่คอของผู้ช่วย ส่วนมือของผู้ช่วยจะจับมือของผู้ประสบภัยไว้
- แขนอีกข้างหนึ่งของผู้ช่วยจะโอบเอวของผู้ประสบภัยเพื่อพยุงและเดินไปด้วยกัน
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ประสบภัยที่มีการบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่มีอาการกระดูกหัก
- ผู้ประสบภัยที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้บางส่วน
- การเคลื่อนย้ายในระยะสั้น ๆ
2. การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บแบบท่อนซุง (Log Roll Technique)
การย้ายผู้ประสบภัยแบบหมุนตัวเป็นวิธีที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยที่อาจมีการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง เทคนิคนี้ช่วยลดการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังให้น้อยที่สุด โดยมีผู้ช่วยเหลือสองคนหรือมากกว่าทำการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยในท่าที่หมุนตัวอย่างช้า ๆ
- คนที่อยู่ที่หัวจะทำหน้าที่ประคองและหมุนตัวของผู้ป่วยไปในทิศทางที่ต้องการ
- คนที่ลำตัวจะช่วยในการประคองและทำให้ผู้ป่วยเคลื่อนที่ในแนวนอน
- คนที่ขาจะช่วยดึงขาของผู้ป่วยและหมุนตัวของผู้ป่วยไปในทิศทางที่ต้องการ
วิธีการ:
- เริ่มต้นการหมุนตัวผู้ป่วยอย่างช้าๆ โดยการให้คนที่หัวยกตัวผู้ป่วยขึ้นเล็กน้อย ขณะเดียวกันคนที่ลำตัวและขาช่วยหมุนตัวผู้ป่วยไปทางด้านที่ต้องการ
- ควรหมุนตัวผู้ป่วยไปในทิศทางที่เหมาะสมที่สุดและหลีกเลี่ยงการบิดตัวหรือเคลื่อนไหวกระดูกสันหลัง
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ประสบภัยที่มีการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง
- ผู้ประสบภัยที่หมดสติ
- การเคลื่อนย้ายโดยไม่ต้องการเคลื่อนย้ายในระยะทางไกล
3. การใช้เก้าอี้รถเข็นฉุกเฉิน (Emergency Wheelchair Transfer)
การใช้เก้าอี้รถเข็นฉุกเฉินเหมาะสำหรับผู้ประสบภัยที่ไม่สามารถเดินได้ การเคลื่อนย้ายไปยังเก้าอี้รถเข็นควรทำด้วยความระมัดระวังในการประคองศีรษะและลำตัว
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ประสบภัยที่มีบาดเจ็บที่ขาหรือสะโพก
- ผู้ประสบภัยที่ไม่สามารถเดินได้
- การเคลื่อนย้ายในระยะทางปานกลางถึงไกล
4. การเคลื่อนย้ายโดยใช้ผ้าใบหรือเปลหาม (Blanket or Stretcher Lift)
การใช้ผ้าใบหรือเปลหาม เป็นวิธีการเคลื่อนย้ายที่เหมาะสมสำหรับผู้ประสบภัยที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง เช่น การบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง การบาดเจ็บที่ขาหรือสะโพก การใช้ลังบอร์ดช่วยป้องกันการเคลื่อนไหวของร่างกายที่อาจทำให้บาดเจ็บเพิ่มเติม
วิธีการ:
- วางผ้าใบ / เปล ที่สะอาดและแข็งแรงลงใต้ตัวผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บ ขนานไปกับร่างกาย
- ขอให้คนช่วยยกขอบของผ้าใบ / เปล ขึ้นในแต่ละด้าน เพื่อรองรับร่างกายของผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บ
- เคลื่อนย้ายผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บอย่างระมัดระวังไปยังตำแหน่งใหม่ โดยให้แน่ใจว่าผู้ป่วยยังคงมีความปลอดภัยและไม่รู้สึกเจ็บปวด
หลีกเลี่ยงการยกหนักเกินไปหรือยกในท่าที่อาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบาย และจัดเตรียมพื้นที่ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และไม่มีอุปสรรค
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ประสบภัยที่มีบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังหรือกระดูกหัก
- ผู้ประสบภัยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง
- การเคลื่อนย้ายในระยะทางไกล
5. การย้ายผู้ประสบภัยแบบลาก (Drag Method)
การย้ายผู้ประสบภัยแบบลากเป็นวิธีที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ต้องการการเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว เช่น การเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่อันตราย เช่น ไฟไหม้หรืออาคารถล่ม ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ประสบภัยไม่ได้มีการบาดเจ็บที่ส่งผลกระทบต่อกระดูก
วิธีการ:
- วางมือใต้ร่างกายผู้บาดเจ็บ เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหว
- ดึงร่างกายไปยังที่ปลอดภัย โดยการลากที่แขนหรือขา ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของบาดแผลและความสะดวกในการเข้าถึง
เหมาะสำหรับ:
- สถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องการการเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว
- ผู้ประสบภัยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้
- การเคลื่อนย้ายในระยะสั้น
ความสำคัญของการฝึกอบรมเสริมความรู้ด้านการปฐมพยาบาล
การเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยต้องการทักษะและความรู้ที่ถูกต้อง ซึ่งสามารถเรียนรู้และฝึกฝนผ่านการอบรมและการเตรียมพร้อม การฝึกอบรมควรรวมถึงการทำความเข้าใจลักษณะบาดเจ็บ การใช้เครื่องมือช่วยเหลือ และการปฏิบัติในสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รวมเอาไว้ในเนื้อหาหลักสูตรการอบรมปฐมพยาบาลขั้นต้น
ผู้ที่สนใจเรียนรู้เทคนิคการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย หรือการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอาการบาดเจ็บต่างๆ สามารถอ่านรายละเอียดและจองคอร์สอบรมได้ที่ : บริการอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น สมัครวันนี้ลดทันที 40%
ติดต่อ : (064) 958 7451
ความสำคัญของการฝึกอบรม:
- ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บเพิ่มเติม แก่ผู้ประสบภัย
- เพิ่มความมั่นใจและความสามารถในการช่วยเหลือ
- เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
สรุป
การเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยเป็นขั้นตอน ที่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อลดการบาดเจ็บเพิ่มเติมจากการช่วยเหลือและเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยให้ไวที่สุด การเลือกวิธีการเคลื่อนย้ายที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับลักษณะของบาดเจ็บและสภาพแวดล้อมที่เกิดเหตุ ผู้ช่วยเหลือควรได้รับการฝึกอบรมและการเตรียมพร้อม เพื่อเรียนรู้หลักการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากมืออาชีพ ที่เคยปฏิบัติงานจริงและนำความรู้เหล่านั้นมาสอนเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้