5 ข้อควรจำ ปฐมพยาบาลอย่างไรไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ช่วยเหลือ

by pam
10 views
ปฐมพยาบาลอย่างไรไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ช่วยเหลือ

เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุทางถนน การจมน้ำ ไฟไหม้ หรือไฟฟ้าช็อต การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเป็นทักษะสำคัญที่สามารถช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในหลายกรณี ผู้ช่วยเหลือกลับตกเป็นผู้บาดเจ็บรายที่สองเนื่องจากละเลยข้อควรระวังพื้นฐานด้านความปลอดภัยของตนเอง

รวม “5 ข้อควรจำ” สำหรับผู้ให้การปฐมพยาบาล เพื่อไม่ให้การช่วยเหลือกลายเป็นการเสี่ยงชีวิตโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรักษาความปลอดภัยของตนเองในขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นหลักสำคัญที่มักถูกมองข้าม

5 หลักความปลอดภัยสำหรับผู้ช่วยเหลือ

1. ประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าไปช่วย

อย่าช่วยทันที โดยไม่ประเมินความเสี่ยง!

หลายกรณีที่ผู้ช่วยเหลือรีบเข้าไปยังที่เกิดเหตุโดยขาดการประเมินสถานการณ์ ทำให้ตนเองตกอยู่ในความเสี่ยง เช่น เข้าไปในบริเวณไฟไหม้ที่ยังมีเปลวเพลิง, เข้าไปในซากรถที่มีน้ำมันรั่วไหล หรือเดินลงน้ำไปช่วยคนจมน้ำโดยที่ตนเองว่ายน้ำไม่แข็ง

หลักการที่ควรทำ:

  • หยุด – ตั้งสติ และห้ามพุ่งเข้าไปโดยไม่คิด

  • มอง – สำรวจสิ่งรอบตัว เช่น มีไฟฟ้ารั่วหรือไม่, รถยังเคลื่อนไหวอยู่หรือเปล่า

  • ฟัง – เสียงระเบิด, เสียงร้องขอความช่วยเหลือ หรือเสียงไซเรน

การประเมินสถานการณ์จะช่วยให้ผู้ช่วยเหลือตัดสินใจได้ว่า:

  • สามารถเข้าไปช่วยเองได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

  • ควรเรียกหน่วยกู้ภัยเป็นอันดับแรกหรือไม่

  • ควรมีอุปกรณ์ป้องกันเพิ่มเติม เช่น ถุงมือ หน้ากาก หรือเชือก

“หากคุณไม่ปลอดภัย ผู้ประสบเหตุจะไม่ได้รับความช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพ”

ป้องกันการสัมผัสของเหลวในร่างกายผู้บาดเจ็บ

2. ป้องกันการสัมผัสของเหลวในร่างกายผู้บาดเจ็บ

เลือด น้ำลาย น้ำเหลือง อาจมีเชื้อโรคติดต่อได้

เชื้อ HIV, ไวรัสตับอักเสบบี และซี รวมถึงแบคทีเรียชนิดรุนแรง อาจติดต่อผ่านของเหลวในร่างกายได้ หากเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผล รอยถลอก หรือเยื่อเมือก (เช่น ตา ปาก)

วิธีป้องกัน:

  • สวมถุงมือยาง ทุกครั้งก่อนสัมผัสผู้บาดเจ็บ

  • หากไม่มีถุงมือ ใช้วัสดุอื่นชั่วคราว เช่น ถุงพลาสติกสะอาด

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสเลือดโดยตรง

  • ล้างมือทันทีหลังการช่วยเหลือด้วยสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ

การสวมถุงมือไม่ใช่เพียงเพื่อความสะอาด แต่เป็น “มาตรการความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน” ที่จำเป็นสำหรับผู้ช่วยเหลือทุกคน

3. หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บโดยไม่จำเป็น

การเคลื่อนย้ายที่ผิดวิธีอาจทำให้ผู้ช่วยเหลือและผู้บาดเจ็บเสี่ยงมากขึ้น

ในหลายเหตุการณ์ เช่น อุบัติเหตุจราจร หรือผู้ป่วยที่หมดสติจากโรคหัวใจ การย้ายตัวผู้บาดเจ็บโดยไม่มีความจำเป็นหรือไม่มีความรู้ที่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่รุนแรงขึ้น เช่น กระดูกหักซ้ำ หรือบาดเจ็บต่อไขสันหลัง

ในบางกรณี หากผู้ช่วยเหลือไม่มีทักษะที่ดีพอ อาจบาดเจ็บเองจากการพยายามยก เคลื่อนย้าย หรือแบกรับน้ำหนักผู้ป่วย

แนวทางที่ถูกต้อง:

  • หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้าย ยกเว้นมีอันตรายใกล้ตัว เช่น ไฟไหม้หรือรถจะระเบิด

  • ใช้วิธีการเคลื่อนย้ายที่ถูกต้อง เช่น log roll, drag carry, หรือ stretcher transfer

  • ใช้ท่าทางร่างกายที่ปลอดภัย เช่น การย่อตัวและใช้ขาในการยก ไม่ใช้หลัง

อ่านเพิ่มเติม : เทคนิคการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยที่ถูกวิธี

การให้ข้อมูลผู้ประสบภัยกับทีมแพทย์

4. สื่อสารกับทีมกู้ภัย ให้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ

การติดต่อสื่อสารที่ล่าช้าหรือข้อมูลไม่ชัดเจน อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน การโทรแจ้งหน่วยกู้ชีพ/กู้ภัยควรทำทันทีและให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น

  • ชื่อผู้แจ้ง
  • ตำแหน่งที่เกิดเหตุ (ระบุจุดสังเกตชัดเจน)

  • ลักษณะอาการของผู้บาดเจ็บ

  • จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ

  • อันตรายแวดล้อม เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม ไฟฟ้ารั่ว

การพูดสั้น กระชับ ชัดเจน จะช่วยให้หน่วยกู้ภัยวางแผนการเข้าช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้คุณไม่ต้องแบกรับภาระหนักเกินความสามารถของตนเอง

5. รู้ขีดจำกัดของตัวเอง

อย่าทำในสิ่งที่คุณไม่ถนัด เพราะอาจเป็นอันตรายทั้งต่อตัวคุณและผู้บาดเจ็บ

ผู้ช่วยเหลือควรประเมินตนเองว่า:

  • มีความรู้พอในการปฐมพยาบาล หรือไม่?

  • มีสุขภาพแข็งแรงพอจะเคลื่อนย้ายหรือช่วยเหลือ หรือไม่?

  • มีอุปกรณ์เพียงพอ หรือไม่?

  • ต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่น หรือไม่?

เช่น หากคุณไม่รู้วิธีการทำ CPR อย่างถูกต้อง การกดหน้าอกผิดจังหวะอาจทำให้ผู้บาดเจ็บกระดูกซี่โครงหัก และหากทำโดยไม่รู้จังหวะ อาจไม่ได้ผลเลย

สิ่งที่ควรทำ:

  • ขอบคุณตัวเองที่กล้าเข้าช่วยเหลือ

  • ช่วยเท่าที่ทำได้ เช่น โทรแจ้ง 1669 – เปิดทาง – ส่งอุปกรณ์ – คอยให้กำลังใจ

  • เข้ารับการอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความรู้ที่ถูกต้อง

เรียนรู้หลักการปฐมพยาบาลที่ถูกวิธี

สรุป: ปฐมพยาบาลอย่างปลอดภัย ผู้ช่วยเหลือต้องไม่เป็นผู้บาดเจ็บรายที่สอง

การปฐมพยาบาลเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บได้ แต่สิ่งที่มักถูกมองข้ามคือความปลอดภัยของผู้ช่วยเหลือเอง ผู้ช่วยควรเริ่มต้นด้วยการประเมินสถานการณ์ หลีกเลี่ยงความเสี่ยง เช่น ไฟฟ้ารั่วหรือไฟไหม้ สวมถุงมือทุกครั้งที่สัมผัสของเหลวในร่างกายผู้บาดเจ็บ ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหากไม่มีความจำเป็น สื่อสารกับหน่วยกู้ภัยให้ชัดเจน และรู้ขีดจำกัดของตัวเอง การช่วยเหลือจะปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เมื่อผู้ช่วยเหลือไม่กลายเป็นผู้บาดเจ็บเพิ่มอีกหนึ่งคนในเหตุการณ์นั้น

“ช่วยได้ แต่อย่าให้ตัวเองต้องเจ็บเพิ่ม”
— หลักการทองของการเป็นผู้ให้การปฐมพยาบาลที่ปลอดภัย

ข้อควรจำ เป้าหมาย
ประเมินสถานการณ์ก่อนช่วย ป้องกันอันตรายจากสิ่งแวดล้อม
ป้องกันการสัมผัสของเหลว ลดความเสี่ยงจากโรคติดต่อ
หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายผิดวิธี ป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ
สื่อสารกับหน่วยกู้ภัย เพิ่มประสิทธิภาพการช่วยเหลือ
รู้ขีดจำกัดของตัวเอง ป้องกันผู้ช่วยเหลือจากอันตราย

อย่ารอให้เหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นก่อน ถึงจะเริ่มเรียนรู้!

อบรมปฐมพยาบาล.com เปิดอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยวิทยากรมืออาชีพมาตรฐาน AHA

  •  เรียนรู้วิธีช่วยชีวิตอย่างถูกวิธี ปลอดภัยทั้งผู้บาดเจ็บ และผู้ช่วยเหลือ
  •  ฝึกปฏิบัติจริงในสถานการณ์จำลอง
  • มีอุปกรณ์ฝึกอบรมพร้อมสำหรับผู้เข้าอบรมทุกคน
  •  เหมาะสำหรับองค์กร โรงงาน โรงเรียน หรือบุคคลทั่วไป
  • มอบวุฒิบัตรหลังอบรม

รายละเอียดหลักสูตร : อบรม CPR

“ช่วยคนอื่นได้อย่างปลอดภัย เริ่มต้นได้ที่การฝึกอบรมกับเรา”


แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. American Heart Association (AHA). (2020). First Aid and CPR Guidelines. American Heart Association.
    Retrieved from: https://www.heart.org

  2. Red Cross Thailand. (2022). Basic First Aid and Safety Tips. Thai Red Cross Society.

  3. National Safety Council. (2019). First Aid and Safety Guidelines. National Safety Council.
    Retrieved from: https://www.nsc.org

สาระยอดนิยม

ศูนย์ฝึกอบรมการปฐมพยาบาล CPR ครบวงจร ตามหลักสากล

Copyright @2025   อบรมปฐมพยาบาล  Developed website and SEO by iPLANDIT