เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุทางถนน การจมน้ำ ไฟไหม้ หรือไฟฟ้าช็อต การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเป็นทักษะสำคัญที่สามารถช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในหลายกรณี ผู้ช่วยเหลือกลับตกเป็นผู้บาดเจ็บรายที่สองเนื่องจากละเลยข้อควรระวังพื้นฐานด้านความปลอดภัยของตนเอง
รวม “5 ข้อควรจำ” สำหรับผู้ให้การปฐมพยาบาล เพื่อไม่ให้การช่วยเหลือกลายเป็นการเสี่ยงชีวิตโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรักษาความปลอดภัยของตนเองในขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นหลักสำคัญที่มักถูกมองข้าม
5 หลักความปลอดภัยสำหรับผู้ช่วยเหลือ
1. ประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าไปช่วย
อย่าช่วยทันที โดยไม่ประเมินความเสี่ยง!
หลายกรณีที่ผู้ช่วยเหลือรีบเข้าไปยังที่เกิดเหตุโดยขาดการประเมินสถานการณ์ ทำให้ตนเองตกอยู่ในความเสี่ยง เช่น เข้าไปในบริเวณไฟไหม้ที่ยังมีเปลวเพลิง, เข้าไปในซากรถที่มีน้ำมันรั่วไหล หรือเดินลงน้ำไปช่วยคนจมน้ำโดยที่ตนเองว่ายน้ำไม่แข็ง
หลักการที่ควรทำ:
-
หยุด – ตั้งสติ และห้ามพุ่งเข้าไปโดยไม่คิด
-
มอง – สำรวจสิ่งรอบตัว เช่น มีไฟฟ้ารั่วหรือไม่, รถยังเคลื่อนไหวอยู่หรือเปล่า
-
ฟัง – เสียงระเบิด, เสียงร้องขอความช่วยเหลือ หรือเสียงไซเรน
การประเมินสถานการณ์จะช่วยให้ผู้ช่วยเหลือตัดสินใจได้ว่า:
-
สามารถเข้าไปช่วยเองได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
-
ควรเรียกหน่วยกู้ภัยเป็นอันดับแรกหรือไม่
-
ควรมีอุปกรณ์ป้องกันเพิ่มเติม เช่น ถุงมือ หน้ากาก หรือเชือก
“หากคุณไม่ปลอดภัย ผู้ประสบเหตุจะไม่ได้รับความช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพ”
2. ป้องกันการสัมผัสของเหลวในร่างกายผู้บาดเจ็บ
เลือด น้ำลาย น้ำเหลือง อาจมีเชื้อโรคติดต่อได้
เชื้อ HIV, ไวรัสตับอักเสบบี และซี รวมถึงแบคทีเรียชนิดรุนแรง อาจติดต่อผ่านของเหลวในร่างกายได้ หากเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผล รอยถลอก หรือเยื่อเมือก (เช่น ตา ปาก)
วิธีป้องกัน:
-
สวมถุงมือยาง ทุกครั้งก่อนสัมผัสผู้บาดเจ็บ
-
หากไม่มีถุงมือ ใช้วัสดุอื่นชั่วคราว เช่น ถุงพลาสติกสะอาด
-
หลีกเลี่ยงการสัมผัสเลือดโดยตรง
-
ล้างมือทันทีหลังการช่วยเหลือด้วยสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ
การสวมถุงมือไม่ใช่เพียงเพื่อความสะอาด แต่เป็น “มาตรการความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน” ที่จำเป็นสำหรับผู้ช่วยเหลือทุกคน
3. หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บโดยไม่จำเป็น
การเคลื่อนย้ายที่ผิดวิธีอาจทำให้ผู้ช่วยเหลือและผู้บาดเจ็บเสี่ยงมากขึ้น
ในหลายเหตุการณ์ เช่น อุบัติเหตุจราจร หรือผู้ป่วยที่หมดสติจากโรคหัวใจ การย้ายตัวผู้บาดเจ็บโดยไม่มีความจำเป็นหรือไม่มีความรู้ที่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่รุนแรงขึ้น เช่น กระดูกหักซ้ำ หรือบาดเจ็บต่อไขสันหลัง
ในบางกรณี หากผู้ช่วยเหลือไม่มีทักษะที่ดีพอ อาจบาดเจ็บเองจากการพยายามยก เคลื่อนย้าย หรือแบกรับน้ำหนักผู้ป่วย
แนวทางที่ถูกต้อง:
-
หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้าย ยกเว้นมีอันตรายใกล้ตัว เช่น ไฟไหม้หรือรถจะระเบิด
-
ใช้วิธีการเคลื่อนย้ายที่ถูกต้อง เช่น log roll, drag carry, หรือ stretcher transfer
-
ใช้ท่าทางร่างกายที่ปลอดภัย เช่น การย่อตัวและใช้ขาในการยก ไม่ใช้หลัง
อ่านเพิ่มเติม : เทคนิคการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยที่ถูกวิธี
4. สื่อสารกับทีมกู้ภัย ให้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
การติดต่อสื่อสารที่ล่าช้าหรือข้อมูลไม่ชัดเจน อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน การโทรแจ้งหน่วยกู้ชีพ/กู้ภัยควรทำทันทีและให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น
- ชื่อผู้แจ้ง
-
ตำแหน่งที่เกิดเหตุ (ระบุจุดสังเกตชัดเจน)
-
ลักษณะอาการของผู้บาดเจ็บ
-
จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ
-
อันตรายแวดล้อม เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม ไฟฟ้ารั่ว
การพูดสั้น กระชับ ชัดเจน จะช่วยให้หน่วยกู้ภัยวางแผนการเข้าช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้คุณไม่ต้องแบกรับภาระหนักเกินความสามารถของตนเอง
5. รู้ขีดจำกัดของตัวเอง
อย่าทำในสิ่งที่คุณไม่ถนัด เพราะอาจเป็นอันตรายทั้งต่อตัวคุณและผู้บาดเจ็บ
ผู้ช่วยเหลือควรประเมินตนเองว่า:
-
มีความรู้พอในการปฐมพยาบาล หรือไม่?
-
มีสุขภาพแข็งแรงพอจะเคลื่อนย้ายหรือช่วยเหลือ หรือไม่?
-
มีอุปกรณ์เพียงพอ หรือไม่?
-
ต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่น หรือไม่?
เช่น หากคุณไม่รู้วิธีการทำ CPR อย่างถูกต้อง การกดหน้าอกผิดจังหวะอาจทำให้ผู้บาดเจ็บกระดูกซี่โครงหัก และหากทำโดยไม่รู้จังหวะ อาจไม่ได้ผลเลย
สิ่งที่ควรทำ:
-
ขอบคุณตัวเองที่กล้าเข้าช่วยเหลือ
-
ช่วยเท่าที่ทำได้ เช่น โทรแจ้ง 1669 – เปิดทาง – ส่งอุปกรณ์ – คอยให้กำลังใจ
-
เข้ารับการอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความรู้ที่ถูกต้อง
สรุป: ปฐมพยาบาลอย่างปลอดภัย ผู้ช่วยเหลือต้องไม่เป็นผู้บาดเจ็บรายที่สอง
การปฐมพยาบาลเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บได้ แต่สิ่งที่มักถูกมองข้ามคือความปลอดภัยของผู้ช่วยเหลือเอง ผู้ช่วยควรเริ่มต้นด้วยการประเมินสถานการณ์ หลีกเลี่ยงความเสี่ยง เช่น ไฟฟ้ารั่วหรือไฟไหม้ สวมถุงมือทุกครั้งที่สัมผัสของเหลวในร่างกายผู้บาดเจ็บ ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหากไม่มีความจำเป็น สื่อสารกับหน่วยกู้ภัยให้ชัดเจน และรู้ขีดจำกัดของตัวเอง การช่วยเหลือจะปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เมื่อผู้ช่วยเหลือไม่กลายเป็นผู้บาดเจ็บเพิ่มอีกหนึ่งคนในเหตุการณ์นั้น
“ช่วยได้ แต่อย่าให้ตัวเองต้องเจ็บเพิ่ม”
— หลักการทองของการเป็นผู้ให้การปฐมพยาบาลที่ปลอดภัย
ข้อควรจำ | เป้าหมาย |
---|---|
ประเมินสถานการณ์ก่อนช่วย | ป้องกันอันตรายจากสิ่งแวดล้อม |
ป้องกันการสัมผัสของเหลว | ลดความเสี่ยงจากโรคติดต่อ |
หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายผิดวิธี | ป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ |
สื่อสารกับหน่วยกู้ภัย | เพิ่มประสิทธิภาพการช่วยเหลือ |
รู้ขีดจำกัดของตัวเอง | ป้องกันผู้ช่วยเหลือจากอันตราย |
อย่ารอให้เหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นก่อน ถึงจะเริ่มเรียนรู้!
อบรมปฐมพยาบาล.com เปิดอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยวิทยากรมืออาชีพมาตรฐาน AHA
- เรียนรู้วิธีช่วยชีวิตอย่างถูกวิธี ปลอดภัยทั้งผู้บาดเจ็บ และผู้ช่วยเหลือ
- ฝึกปฏิบัติจริงในสถานการณ์จำลอง
- มีอุปกรณ์ฝึกอบรมพร้อมสำหรับผู้เข้าอบรมทุกคน
- เหมาะสำหรับองค์กร โรงงาน โรงเรียน หรือบุคคลทั่วไป
- มอบวุฒิบัตรหลังอบรม
รายละเอียดหลักสูตร : อบรม CPR
“ช่วยคนอื่นได้อย่างปลอดภัย เริ่มต้นได้ที่การฝึกอบรมกับเรา”
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
American Heart Association (AHA). (2020). First Aid and CPR Guidelines. American Heart Association.
Retrieved from: https://www.heart.org -
Red Cross Thailand. (2022). Basic First Aid and Safety Tips. Thai Red Cross Society.
-
National Safety Council. (2019). First Aid and Safety Guidelines. National Safety Council.
Retrieved from: https://www.nsc.org